วิธีการดูแลบ้านหลังน้ำท่วม ให้ปลอดภัยและประหยัดที่สุด

จากที่ผ่านมาหลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก ในตอนนี้บางพื้นที่ปริมาณน้ำเริ่มกลับสู่สภาวะปกติแล้ว น้ำเริ่มค่อย ๆ ลดลง ซึ่งน้ำท่วมในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้บ้านไม่น้อยเลยทีเดียว แน่นอนว่าเรื่องของค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านจำนวนมากจะต้องตามมา หลายบ้านอาจไม่พร้อมที่จะซ่อมทีเดียวแต่ก็จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นก่อน

และนี่คือวิธีการดูแลบ้านหลังน้ำท่วม ให้ปลอดภัยและประหยัดที่สุด อะไรพอซ่อมแซมได้แนะนำให้ซ่อม แต่ถ้าสิ่งไหนต้องเปลี่ยนก็แนะนำให้มองหาสินค้าที่ลดราคา และคุณภาพดีเหมาะสมกับการใช้งานจริง

หลังน้ำลดเช็กสัตว์อันตรายในบ้าน

อย่างแรกเลยสิ่งที่ควรระวังและทุกคนอาจไม่ได้นึกถึงก็คือ สัตว์อันตราย สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์มีพิษ ที่ตอนน้ำท่วมแล้วมาพร้อมกับน้ำ อาจจะค่อย ๆ สังเกตร่องรอยลาก หรือรอยเท้าแปลก ๆ ที่อยู่บนพื้น และค่อย ๆ เดินดูไปเรื่อย ๆ ในแต่ละห้องแต่ละพื้นที่ และที่สำคัญแนะนำให้ตรวจสอบพื้นที่บ้านในช่วงกลางวันจะได้มองเห็นสัตว์ได้ง่าย ตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ บ้านด้วยการใช้ไม้ยาวแหวกทางนำหน้า ตามมุมอับ และบริเวณที่มีสิ่งของทับถมกัน หากพบสัตว์อันตรายหรือไม่แน่ใจให้ติดต่อทางเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญเข้ามาสำรวจในบ้านให้เรียบร้อยก่อนทำความสะอาดจะดีกว่า

กำจัดขยะในบ้านและทางเดินน้ำ

ท่อหรือรูระบายน้ำของบ้าน ในขณะที่น้ำท่วมเข้ามาภายในบ้าน แน่นอนว่าต้องมีขยะหรือเศษสิ่งปฏิกูลเข้ามา ควรเปิดฝาท่อออกเพื่อทำการระบายน้ำออกจากตัวบ้านได้เร็วขึ้น หรือทำการตักเศษขยะนั้นออกใส่ถุงขยะไปทิ้งด้านนอก ไม่ทิ้งลงท่อระบายน้ำ เพราะอาจทำให้กลับมาอุดตันอีกครั้งได้

เช็ดคราบผนังด้วยน้ำสบู่ คราบหนักเช็ดน้ำส้มสายชูผสมเบกกิ้งโซดา

หลังน้ำท่วมเมื่อปริมาณน้ำลดลงบริเวณผนังของบ้านจะทิ้งคราบต่าง ๆ ไว้มากมาย ทั้งคราบดินโคลน คราบน้ำมัน คราบเชื้อรา คราบตะไคร่ วิธีง่าย ๆ ที่จะกำขัดคราบเหล่านี้ให้สิ้นซากคือ ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เช็ดคราบเหล่านี้ออกให้มากที่สุด อาจจะต้องทำการเช็ดหลายครั้ง กรณีเป็นคราบน้ำมันฝังแน่นให้ล้างด้วยน้ำส้มสายชูผสมเบกกิ้งโซดาโดยผสมในปริมาณที่เท่ากันในการเช็ดล้างทำความสะอาด

เมื่อแห้งสนิท ทำการตรวจสอบอุปกรณ์และระบบไฟ

หลังน้ำลดควรทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าแห้งสนิทก่อนจะเสียบปลั๊ก หากไม่มั่นใจและกังวลเรื่องความปลอดภัยแนะนำให้ติดต่อช่างที่ชำนาญเข้ามาตรวจสอบ หรือซ่อมแซม หากสินค้าไม่ได้อยู่ในประกันก็อาจติดต่อที่แบรนด์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าเพราะจะเป็นผู้รู้ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ดีที่สุด

ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ จัดการทำความสะอาด และตากแดดให้แห้ง

อันดับแรกทำให้เฟอร์นิเจอร์แห้งสนิทก่อนโดยอาจนำมาตากแดด และค่อยตรวจสอบสภาพของเฟอร์นิเจอร์ว่าสามารถซ่อมแซมอย่างไรได้บ้าง

- เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้า หากโครงไม่เสียหายให้ถอดเฉพาะโครง แล้วแยกชิ้นส่วนออกมาตากแดด หรือใส่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคแล้วค่อยประกอบใหม่อีกครั้ง แต่ถ้าพอมีงบประมาณก็แนะนำให้ซื้อเปลี่ยนใหม่ เพราะถึงแม้จะฆ่าเชื้อโรคแล้วแต่ก็อาจจะยังไม่หมด จะได้สภาพที่ 100% และสภาพมีความสมบูรณ์มากกว่า

- เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ ไม่ควรนำไปตากแดด เพราะอาจทำให้เสียรูปได้ แต่หากเป็นไม้อัดทำใจได้เลยเพราะจะต้องเกิดอาการบวมน้ำแน่นอน

- เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเหล็ก ให้นำไปตากแดดให้แห้งสนิท แล้วใช้น้ำยาขัดสนิมออก เคลือนน้ำยากันสนิมอีกครั้งแล้วจึงพ่นสีทับใหม่

- เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหนังแท้ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องหนังแท้ หรือใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูหรือแอมโมเนียเช็ดเบา ๆ ผึ่งลมให้แห้ง แล้วค่อยทาทับด้วยน้ำยาถนอมเครื่องหนัง

การดูแลซ่อมผนัง ฝ้า เพดาน และพื้น

แน่นอนว่าหลังน้ำท่วมผนังหรือพื้นบ้านพังอย่างแน่นอน การซ่อมแซมผนังและพื้นบ้านหลังน้ำท่วม แนะนำให้ซ่อมวัสดุต่าง ๆ ตามประเภทของวัสดุนั้น ๆ แต่หากเสียหายเยอะส่วนนี้อาจจะต้องเสียเงินรื้อและทำใหม่ ในส่วนของการทาสีทับต้องลอกเก่าออกก่อน แล้วทิ้งให้แห้งประมาณ 30 วัน จึงทำการทาทับจำนวนประมาณ 2 ครั้ง

- ผนังไม้ ให้เช็ดทำความสะอาดก่อนความชื้นจะได้ระเหยออกมาง่าย เมื่อรู้สึกว่าแห้งสนิทจึงทาสีทับ

- ผนังปูน ใช้วิธีคล้ายกับผนังไม้ แต่อาจต้องทิ้งระยะเวลานานหน่อยกว่าที่ความชื้นจากปูนจะระเหยออกมาหมด

- พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เนื่องจากเป็นไม้อาจเกินการบวมได้ แต่หากแผ่นพื้นไม้นั้นยังสามารถใช้งานได้อยู่ ให้พึ่งลมให้แห้งสนิท แล้วทำการทากาวติดลงไปอีกครั้ง

- พื้นไม้ SPC พื้นไม้ชนิดนี้ทนชื้นกันปลวก แต่ถ้าเกิดการแช่น้ำเป็นเวลาหลายวันอาจจะเกิดตะไคร่หรือราขึ้นได้ หากแผ่นไหนไม่เสียหายสามารถถอดออกแล้วติดตั้งใหม่ได้เนื่องจากพื้นไม้ SPC เป็นการติดตั้งด้วยระบบคลิ๊กล็อค

- พื้นกระเบื้อง เช็ดทำความสะอาด ตะไคร่หรือสิ่งสกปรกออก ใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาล้างจาน เช็ดด้วยน้ำสะอาด ทำวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าสะอาดหมด รอแห้งสนิทอาจใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคลงซ้ำอีกครั้งก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้

ซ่อมแซมหรือทำการเปลี่ยนประตูบ้าน

ประตูเมื่อโดนน้ำท่วม เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดการบวมขึ้น โดยเฉพาะกับประตูไม้ และจะทำให้เกิดอาการผุตามมาในภายหลัง ซึ่งมีวิธีแก้ไข คือ ทิ้งประตูไว้ให้แห้งสนิท และทำการซ่อมส่วนที่ผุพังให้เรียบร้อยก่อน อาจจะเป็นการปรับไสออกหรือการปิดหน้าผิวแล้วจึงทาสีใหม่ทับ แต่ถ้าผุมากก็ควรทำการเปลี่ยน ซึ่งตอนนี้ลีโอวูดมีโปรโมชั่นสินค้าประตูลดราคาด้วย

- ประตูไม้ เมื่อโดนแช่น้ำก็จะบวมและผุพัง มีวิธีแก้โดยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วซ่อมแซมส่วนที่ผุให้เรียบร้อย จากนั้นจึงทาสีใหม่ แต่ถ้าผุมาก ก็ควรจะเปลี่ยนเลย

- ประตูเหล็กที่ขึ้นสนิม ก็ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมด เช็ดให้สะอาดแล้วจึงทาสีใหม่ โดยทาสีกันสนิมก่อน และอย่าลืมดูรอยต่อต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เป็นท่อโครงเหล็ก ว่ามีน้ำหลงเหลืออยู่หรือเปล่า ซึ่งต้องให้แห้งจริง ๆ ก่อน จึงจะทาสีได้

บานพับ ลูกบิด โดนน้ำ

หากบานพับ ลูกบิด หรือกุญแจโดนน้ำเกิดเป็นสนิม ให้ขัดสนิมออกให้หมด แล้วใช้น้ำยาหล่อลื่นตามช่วงรอยต่อ อย่าใช้จาระบีหรือพวกขี้ผึ้งทาเพราะจะไปปิดกั้นทำให้ความชื้นระเหยออกมาไม่ได้ อาจจะเป็นปัญหาหนักกว่าเดิม แต่หากลองทำหลายวิธีแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็แนะนำให้ซื้อเปลี่ยนใหม่จะดีกว่า ควรเลือกซื้อลูกบิด หรือบานพับที่เป็นเกรดพรีเมี่ยมทนทานต่อการเป็นสนิม

เอกสารกระดาษเปียกรอใกล้แห้งค่อยแยกออก

กรณีเอกสารหรือกระดาษเปียกน้ำ ซึ่งหากแยกออกเลยอาจทำให้เอกสารสำคัญฉีกขาดได้ ดังนั้น รอให้เอกสารแห้งหมาดก่อนแล้วค่อยทำการคลี่ออกอย่างเบามือ หากยังติดอยู่ ให้ทำการพรมน้ำหมาด ๆ แล้วจึงทำการคลี่ออกอีกครั้ง ก็จะช่วยลดการติดน้อยลง

ถึงแม้ว่ายังมีหลายพื้นที่ที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วมอยู่ ทางเราขอเป็นกำลังใจให้ และขอเป็นช่องทางที่จะให้ความรู้และเทคนิคดี ๆ เพื่อให้ทุกคนผ่านไปด้วยดีจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ทั้งหมดนี้คือวิธีการดูแลบ้านหลังน้ำท่วม ให้ปลอดภัยและประหยัดที่สุด โดยตรงดูและทำการแก้ไขไปทีละจุด เพื่อความประหยัดสิ่งของอันไหนที่สามารถใช้งานได้อยู่ ซ่อมได้ให้ทำการซ่อม และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคช่วยอีกที แต่ถ้าสิ่งไหนเกิดกว่าจะสามารถซ่อมได้ ต้องตัดใจซื้อสินค้าใหม่อย่างเดียว ซึ่งจะประหยัดมากขึ้นหากซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยา โดยตอนนี้ลีโอวูดจัดโปรโมชั่นลดสุดท้ายแห่งปี สูงสุดถึง 80% ถือว่าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปได้เป็นอย่างมาก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก>> Leowood End Of season Sale